ข้อมูลผู้สอน

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วิจัย

บทความ

ตัวอย่างการสอน

สื่อคณิตศาสตร์

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 13


19 เมษายน 2562
จากอาทิตย์ที่แล้ว อาจารย์ได้ให้สรุปมาตรฐานของคณิตศาสตร์ ดังนี้



สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ

  • มาตรฐาน ค 1.1            เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิตจริง
  • มาตรฐาน ค 1.2            เข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของจำนวนและความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการต่างๆ  และใช้การดำเนินการในการแก้ปัญหา
  • มาตรฐาน ค 1.3            ใช้การประมาณค่าในการคำนวณและแก้ปัญหา
  • มาตรฐาน ค 1.4            เข้าใจระบบจำนวนและนำสมบัติเกี่ยวกับจำนวนไปใช้


สาระที่ 2 การวัด
  • มาตรฐาน ค 2.1            เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด
  • มาตรฐาน ค 2.2            แก้ปัญหาเกี่ยวกับการวัด


สาระที่ 3          เรขาคณิต
  • มาตรฐาน ค 3.1            อธิบายและวิเคราะห์รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ
  • มาตรฐาน ค 3.2            ใช้การนึกภาพ (visualization) ใช้เหตุผลเกี่ยวกับปริภูมิ (spatial reasoning)  และใช้แบบจำลองทางเรขาคณิต (geometric model) ในการแก้ปัญหา


สาระที่ 4 พีชคณิต
  • มาตรฐาน ค 4.1            เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป (pattern)  ความสัมพันธ์  และฟังก์ชัน
  • มาตรฐาน ค 4.2            ใช้นิพจน์  สมการ  อสมการ  กราฟ  และตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์  (mathematical  model) อื่นๆ แทนสถานการณ์ต่างๆ ตลอดจนแปลความหมาย และนำไปใช้แก้ปัญหา


 สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
  • มาตรฐาน ค 5.1            เข้าใจและใช้วิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล
  • มาตรฐาน ค 5.2            ใช้วิธีการทางสถิติและความรู้เกี่ยวกับความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ได้ อย่างสมเหตุสมผล
  • มาตรฐาน ค 5.3            ใช้ความรู้เกี่ยวกับสถิติและความน่าจะเป็นช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหา


สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
  • มาตรฐาน ค 6.1            มีความสามารถในการแก้ปัญหา  การให้เหตุผล  การสื่อสาร  การสื่อ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์


สาระที่ควรเรียนรู้

สาระในส่วนนี้กำหนดเฉพาะหัวข้อไม่มีรายละเอียดทั้งนี้  เพื่อประสงค์จะให้ผู้สอนสามารถกำหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการ ความสนใจของเด็ก   อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้โดยคำนึงถึงประสบการณ์  และสิ่งแวดล้อมในชีวิตจริงของเด็ก ผู้สอนสามารถนำสาระที่ควรเรียนรู้มาบูรณาการ จัดประสบการณ์ต่างๆให้ง่ายต่อการ เรียนรู้  ทั้งนี้มิได้ประสงค์ให้เด็กท่องจำเนื้อหา  แต่ต้องการให้เด็กเกิดแนวคิดหลังจากนำ สาระการเรียนรู้นั้นๆมาจัดประสบการณ์ให้เด็กเพื่อให้บรรลุจุดหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ สาระที่ควรเรียนรู้ยังใช้เป็นแนวทางช่วยผู้สอนกำหนดรายละเอียดและความยากง่ายของเนื้อหาให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก สาระที่ควรเรียนรู้ประกอบด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก ธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก  ดังนี้
(1) เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรรู้จักชื่อ นามสกุล รูปร่าง หน้าตาของตน รู้จักอวัยวะต่างๆ และวิธีระวังรักษาร่างกายให้สะอาด ปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดี เรียนรู้ที่จะเล่นและ ทำสิ่งต่างๆด้วยตนเองคนเดียวหรือกับผู้อื่น ตลอดจนเรียนรู้ที่จะแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และแสดงมารยาทที่ดีทั้งนี้ เมื่อเด็กมีโอกาสเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนเองแล้ว เด็กควรจะเกิดแนวคิดดังนี้
  • ฉันมีชื่อตั้งแต่เกิด   ฉันมีเสียง  รูปร่างหน้าตาไม่เหมือนใคร  ฉันภูมิใจที่เป็น ตัวฉันเองเป็นคนไทยที่ดี มีมารยาท มีวินัย รู้จักแบ่งปัน ทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง  เช่น  แต่งตัว  แปรงฟัน รับประทานอาหาร  ฯลฯ         
  • ฉันมีอวัยวะต่าง  ๆ  เช่น ตา หู จมูก ปาก  ขา  มือ  ผม นิ้วมือ  นิ้วเท้า ฯลฯ และ ฉันรู้จักวิธีรักษาร่างกายให้สะอาด  ปลอดภัย  มีสุขภาพดี
  • ฉันต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ออกกำลังกาย และพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต
  • ฉันเรียนรู้ข้อตกลงต่าง ๆ รู้จักระมัดระวังรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นเมื่อทำงาน   เล่นคนเดียว  และเล่นกับผู้อื่น
  • ฉันอาจรู้สึกดีใจ  เสียใจ  โกรธ  เหนื่อย  หรืออื่น ๆ   แต่ฉันเรียนรู้ที่จะแสดงความรู้สึกในทางที่ดี และเมื่อฉันแสดงความคิดเห็น หรือทำสิ่งต่าง ๆด้วยความคิดของตนเอง  แสดงว่าฉันมีความคิดสร้างสรรค์  ความคิดของฉันเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนอื่นก็มีความคิดที่ดีเหมือนฉันเช่นกัน


 (2)   เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก   เด็กควรได้มีโอกาสรู้จักและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน รวมทั้งบุคคลต่างๆที่เด็กต้องเกี่ยวข้อง หรือมีโอกาสใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ เมื่อเด็กมีโอกาสเรียนรู้แล้วเด็กควรเกิดแนวคิด ดังนี้
  • ทุกคนในครอบครัวของฉันเป็นบุคคลสำคัญ ต้องการที่อยู่อาศัย  อาหาร  เสื้อผ้า  และยารักษาโรค  รวมทั้งต้องการความรัก  ความเอื้ออาทร  ช่วยดูแลซึ่งกันและกัน  ช่วยกันทำงานและปฏิบัติตามข้อตกลงภายในครอบครัว  ฉันต้องเคารพ เชื่อฟังพ่อแม่และผู้ใหญ่ในครอบครัว  ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกาลเทศะ  ครอบครัวของฉันมีวันสำคัญต่าง ๆ  เช่น  วันเกิดของบุคคลในครอบครัว  วันทำบุญบ้าน ฯลฯ  ฉันภูมิใจในครอบครัวของฉัน
  • สถานศึกษาของฉันมีชื่อเป็นสถานที่ที่เด็กๆมาทำกิจกรรมร่วมกันและทำให้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย สถานศึกษาของฉันมีคนอยู่ร่วมกันหลายคน ทุกคนมีหน้าที่            รับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฏระเบียบ   ช่วยกันรักษาความสะอาดและทรัพย์สมบัติของสถานศึกษา  ส่วนครูรักฉันและเอาใจใส่ดูแลเด็กทุกคน  เวลาทำกิจกรรมฉันและเพื่อนจะช่วยกันคิด  ช่วยกันทำ  รับฟังความคิดเห็น  และรับรู้ความรู้สึกซึ่งกันและกัน
  • ท้องถิ่นของฉันมีสถานที่ บุคคล แหล่งวิทยากร แหล่งเรียนรู้ต่างๆที่สำคัญ  คนในท้องถิ่นที่ฉันอาศัยอยู่มีอาชีพที่หลากหลาย  เช่น ครู แพทย์  ทหาร  ตำรวจ   ชาวนา  ชาวสวน  พ่อค้า  แม่ค้า  ฯลฯ   ท้องถิ่นของฉันมีวันสำคัญของตนเอง  ซึ่งจะมีการปฏิบัติกิจกรรมที่แตกต่างกันไป
  • ฉันเป็นคนไทย มีวันสำคัญของชาติ   ศาสนา และ พระมหากษัตริย์  มี วัฒนธรรม   ขนบธรรมเนียมประเพณีหลายอย่าง  ฉันและเพื่อนนับถือศาสนา หรือมีความเชื่อที่เหมือนกันหรือแตกต่างกันได้  ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ฉันภูมิใจที่ฉันเป็นคนไทย

(3)  ธรรมชาติรอบตัว เด็กควรจะได้รู้จักสิ่งมีชีวิตที่เป็นต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของโลกที่แวดล้อมเด็กตามธรรมชาติ เช่น ฤดูกาล  กลางวัน  กลางคืน  ฯลฯ            แนวคิดที่ควรให้เกิดหลังจากเด็กเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัว  มีดังนี้
  • ธรรมชาติรอบตัวฉันมีทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต สิ่งมีชีวิตต้องการอากาศ แสงแดด น้ำและอาหารเพื่อเจริญเติบโต  สิ่งมีชีวิตสามารถปรับตัวให้เข้ากับลักษณะอากาศ ฤดูกาล และยังต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน   สำหรับสิ่งไม่มีชีวิต  เช่น  น้ำ  หิน  ดิน  ทราย ฯลฯ   มีรูปร่าง  สี  ประโยชน์  และโทษต่างกัน
  • ลักษณะอากาศรอบตัวแต่ละวันอาจเหมือนหรือแตกต่างกันได้  บางครั้งฉันทายลักษณะอากาศได้จากสิ่งต่างๆ รอบตัว  เช่น  เมฆ  ท้องฟ้า  ลม  ฯลฯในเวลากลางวันเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนดวงอาทิตย์ตก  คนส่วนใหญ่จะตื่นและทำงาน ส่วนฉันไปโรงเรียนหรือเล่น เวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกจนดวงอาทิตย์ขึ้น ฉันและคนส่วนใหญ่จะนอนพักผ่อนตอนกลางคืน
  • สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติรอบตัวฉัน เช่น ต้นไม้ สัตว์ น้ำ ดิน  หิน ทราย อากาศ  ฯลฯ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตต้องได้รับการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นรอบๆตัวฉัน  เช่น  บ้านอยู่อาศัย  ถนนหนทาง  สวนสาธารณะ  สถานที่ต่าง ๆ ฯลฯ  เป็นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน  ทุกคนรวมทั้งฉันช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักษาสาธารณสมบัติโดย ไม่ทำลายและบำรุงรักษาให้ดีขึ้นได้

(4)  สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก เด็กควรจะได้รู้จักสิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะและการสื่อสารต่างๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันของเด็ก ทั้งนี้เมื่อเด็กมีโอกาสเรียนรู้แล้วเด็กควรเกิดแนวคิด ดังนี้
  • สิ่งต่างๆรอบตัวฉันส่วนใหญ่มีสี ยกเว้นกระจกใส พลาสติกใส น้ำบริสุทธิ์  อากาศบริสุทธิ์  ฉันเห็นสีต่างๆด้วยตา  แสงสว่างช่วยให้ฉันมองเห็นสี  สีมีอยู่ทุกหนทุกแห่งที่ฉันสามารถเห็น ตามดอกไม้  เสื้อผ้า  อาหาร  รถยนต์  และอื่น ๆ  สีที่ฉันเห็นมีชื่อเรียกต่างๆกัน  เช่น แดง  เหลือง น้ำเงิน  ฯลฯ   สีแต่ละสีทำให้เกิดความรู้สึกต่างกัน  สีบางสีสามารถใช้เป็นสัญญาณ  หรือสัญลักษณ์สื่อสารกันได้
  • สิ่งต่าง ๆ  รอบตัวฉันมีชื่อ  ลักษณะต่าง ๆ  กัน  สามารถแบ่งตามประเภท  ชนิด  ขนาด  สี  รูปร่าง  พื้นผิว  วัสดุ  รูปเรขาคณิต  ฯลฯ
  • การนับสิ่งต่าง ๆ ทำให้ฉันรู้จำนวนสิ่งของ  และจำนวนนับนั้นเพิ่มหรือลดได้  ฉันเปรียบเทียบสิ่งของต่างๆ ตามขนาด  จำนวน  น้ำหนัก  และจัดเรียงลำดับสิ่งของต่าง ๆ ตามขนาด  ตำแหน่ง  ลักษณะที่ตั้งได้
  • คนเราใช้ตัวเลขในชีวิตประจำวัน  เช่น   เงิน  โทรศัพท์  บ้านเลขที่ ฯลฯ ฉันรวบรวมข้อมูลง่าย ๆ  นำมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นเข้าใจได้โดยนำเสนอด้วยรูปภาพ  แผนภูมิ   แผนผัง  แผนที่  ฯลฯ
  • สิ่งที่ช่วยฉันในการชั่ง ตวง วัด  มีหลายอย่าง  เช่น  เครื่องชั่ง  ไม้บรรทัด  สายวัด  ถ้วยตวง  ช้อนตวง  เชือก  วัสดุ  สิ่งของอื่น ๆ  บางอย่างฉันอาจใช้การคาดคะเนหรือ กะประมาณ
  • เครื่องมือเครื่องใช้มีหลายชนิดและหลายประเภท  เช่น  เครื่องใช้ในการทำสวน การก่อสร้าง เครื่องใช้ภายในบ้าน  ฯลฯ  คนเราใช้เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน  แต่ขณะเดียวกันต้องระมัดระวังในเวลาใช้เพราะอาจเกิดอันตรายและเกิดความเสียหายได้ถ้าใช้ผิดวิธีหรือใช้ผิดประเภท  เมื่อใช้แล้วควรทำความสะอาด และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
  • ฉันเดินทางจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งได้ด้วยการเดินหรือใช้ยานพาหนะ  พาหนะบางอย่างที่ฉันเห็นเคลื่อนที่ได้โดยการใช้เครื่องยนต์ ลม ไฟฟ้า หรือคนเป็นผู้ทำให้เคลื่อนที่  คนเราเดินทางหรือขนส่งได้ทั้งทางบก  ทางน้ำ  ทางอากาศ   พาหนะที่ใช้เดินทาง  เช่น  รถยนต์   รถเมล์  รถไฟ   เครื่องบิน  เรือ  ฯลฯ  ผู้ขับขี่จะต้องได้รับใบอนุญาตขับขี่และทำตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และฉันต้องเดินบนทางเท้า ข้ามถนนตรงทางม้าลาย  สะพานลอย  หรือตรงที่มีสัญญาณไฟ  เพื่อความปลอดภัยและต้องระมัดระวังเวลาข้าม
  • ฉันติดต่อสื่อสารกับบุคคลต่างๆได้หลายวิธี  เช่น โดยการไปมาหาสู่   โทรศัพท์  โทรเลข  จดหมาย  จดหมายอิเลคทรอนิคส์   ฯลฯ  และฉันทราบข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ รอบตัวด้วยการสนทนา  ฟังวิทยุ  ดูโทรทัศน์  และอ่านหนังสือ  หนังสือเป็นสื่อในการ ถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกไปยังผู้อ่าน ถ้าฉันชอบอ่านหนังสือ ฉันก็จะมีความรู้ ความคิดมากขึ้น   ฉันใช้ภาษาทั้งฟัง  พูด  อ่าน  เขียน  เพื่อการสื่อความหมายในชีวิตประจำวัน

แผ่นพับรายงานผู้ปกครอง

1. หน้าปก


2. เป็นการบอกว่าจะจัดการเรียนการสอนในเรื่องอะไร และต้องการให้ผู้ปกครองช่วยอะไร


3. บอกถึงข้อมูลของหน่วยที่เราจะจัดการเรียนการสอน


4. เป็นข้อเสนอแนะในการให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการสอนเด็กที่สามารถทำได้ที่บ้าน


5. เป็นเกมส์ หรือ แบบฝึกหัดให้เด็กได้ฝึกทำ





คำศัพท์
1. mathematics                คณิตศาสตร์
2. Learning                   สาระการเรียนรู้
3. Brochures                  แผ่นพับ
4. The unit                   หน่อยการเรียนรู้
5. conclude                   สรุป
6. Geometry                   เรขาคณิต
7. algebra                    พีชคณิต
8. analyze                    วิเคราะห์
9. Math skills                ทักษะทางคณิตศาสตร์
10.probability                ความน่าจะเป็น



การประเมิน
ประเมินตนเอง : ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจกิจกรรม ช่วยกันตอบคำถาม
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์อธิบายได้อย่างเข้าใจ ไม่เข้าใจตรงไหน ก็ย้อนกลับมาอธิบายให้เข้าใจไปพร้อมๆกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น